ดิฉันอายุ 30 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครมาก่อน วันหนึ่งดิฉันนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน แล้วรถดันไปเกิดอุบัติเหตุชนกับรถสองแถว ดิฉันสลบไม่รู้สึกตัว พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง มีชายหนุ่มหน้าตาดี อายุใกล้เคียงกับดิฉันยืนอยู่ข้างๆ
“คุณประสบอุบัติเหตุรถชนกัน คุณสลบไม่ได้สติ บังเอิญอยู่หน้าคลีนิคของผม พอดี ผมจึงนำคุณมารักษา ผมนายแพทย์ทรงวุฒิครับ”
บุรุษคนนั้นเล่าเรื่องราวให้ดิฉันฟังอย่างละเอียด พร้อมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
“ดิฉัน..เป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะ”
เมื่อดิฉันถามออกไป นายแพทย์ทรงวุฒิก็ตอบว่า
“คุณมีบาดแผลที่อวัยวะเพศเพราะโดนกระแทกอย่างแรง จึงต้องตรวจภายในด้วย ผมได้ตรวจดูเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทราบผลที่แน่นอน คุณต้องมาให้ผมตรวจเช็คเป็นระยะๆดูก่อน”
ดิฉันใจหายวาบกับคำว่า
“ตรวจภายใน”
แสดงว่านายแพทย์คนนี้ได้เห็นของอันพึงสงวนของดิฉันจนหมดสิ้นแล้ว ดิฉันกลับมาบ้าน ก็ถอดกระโปรงออกมองดูบาดแผล หัวใจของดิฉันแทบหยุดเต้นอีกครั้ง เพราะขนเพชรที่ขึ้นดกดำบนเนินสามเหลี่ยม ถูกโกนจนเกลี่ยงเกลา และที่ข้างกลีบเนื้อที่ยื่นออกมามีผ้าพันแผลปิดอยู่ รู้สึกเจ็บช้ำลึกๆที่เนินสามเหลี่ยมอยู่เล็กน้อย ถึงแม้ว่าดิฉันจะอายนายแพทย์หนุ่มคนนั้น แต่ดิฉันก็กลัวแผลตรงนี้จะไม่หายมากกว่า จึงข่มความอายไปให้นายแพทย์ทรงวุฒิล้างแผลให้
“คุณไม่ต้องคิดอะไรมากนะครับ ถือว่าเป็นการรักษา ผมเองก็ต้องข่มใจคิดอย่างนี้เช่นกัน”
ดิฉันแทบกลั้นใจตาย เมื่อถูกพาให้นอนบนเตียงในลักษณะยกขาตั้งขึ้นและถ่างออก แล้วนายแพทย์หนุ่มก็จัดการล้างแผลให้ เขาทำได้อย่างเบามือมาก ถึงแม้จะเจ็บเล็กน้อย แต่ความขวย เขินค่อยๆจางลง อีกทั้งนายแพทย์หนุ่มคนนี้ก็สุภาพจนดิฉันเริ่มสนิทสนมคุ้นเคยตามลำดับ
“วันนี้ผมจะตรวจดูภายในอีกครั้ง บาดแผลภายนอกของคุณหายเกือบสนิทแล้ว ถ้าภายในปกติ คุณก็สบายใจได้แล้วครับ” เขาพูดกับดิฉันแล้วมองด้วยสายตาแปลกกว่าทุกวันที่ผ่านมา ดิฉันเองก็รู้สึกเช่นกัน ราวกับว่าไม่อยากให้แผลมันหาย จะได้พบเขาทุกวันเหมือนเคย ตลอดเวลา 15 วันที่ผ่านมา เขาจับต้องอวัยวะเพศของดิฉันตลอดเวลา แต่ครั้งนี้ดิฉันรู้สึกว่ามันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะว่าเป็นการตรวจภายใน เนื่องจากวันนั้นดิฉันสลบไม่ได้สติจึงไม่รู้สึกอะไร แต่วันนี้….
“ถ้าเจ็บแล้วบอกนะครับ..”
ในขณะที่เขาสวมถุงมือยางแนบเนื้อ ไปยืนที่ปลายเตียงนอนที่ดิฉันนอนถ่างขาอ้าซ่าอยู่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แล้วเริ่มทำการตรวจภายใน ดิฉันไม่มีโอกาสมองเห็นการกระทำของเขา อึดใจต่อมาดิฉันรู้สึกเย็นวาบที่เนินสามเหลี่ยม แสดงว่าเขากำลังล้างทำความสะอาดเนินเนื้อของดิฉันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ดิฉันรู้สึกเหมือนกับนิ้วมือของเขากดเบาๆที่บาดแผลด้านนอก “เจ็บไหมครับ..”
ดิฉันรีบตอบออกไป
“ไม่..ไม่เจ็บค่ะ”
นิ้วมือของเขาคลำต่อไปถูกตุ่มอะไรเข้าดิฉันก็ไม่รู้ แต่เล่นเอาความเสียวซ่านบังเกิดขึ้นมาทันทีทันใด มันเป็นความเสียวที่ดิฉันไม่เคยมีมาก่อน และยิ่งนิ้วมือของเขาป้วนเปี้ยนอยู่ที่จุดดังกล่าว หัวใจดิฉันแทบจะหยุดเอาดื้อๆ มันเสียว..จนดิฉันต้องหลับตาปี๋ขบกรามแน่นไม่ให้มีเสียง เล็ดลอดออกมาจากไรฟัน ดิฉันอยากจะรู้จริงว่าเขาทำอย่างไร จึงทำเอาดิฉันเสียวอย่างนี้ จากนั้นดิฉันก็รู้สึกเปลี่ยนแปลงที่เนินเนื้ออีกครั้ง เหมือนมีวัตถุสากๆระคายผิว พุ่งเข้ามาเขี่ยที่ตุ่มดังกล่าวถี่ยิบ ความเสียวซ่านดูเหมือนทวีคูณสูงขึ้นๆ จนดิฉันทนไม่ไหว ต้องร้องครางออกมาอย่างลืมตัว “คุณหมอ ดิ..ดิฉัน..ดิฉันจะขาดใจอยู่แล้ว ทำไมมันเสียวอย่างนี้ไม่รู้ อูวว์…คุณ.. คุณหมอค่ะ ผู้หญิงที่มาตรวจแบบนี้ต้องเสียวแบบนี้ทุกคนหรือค่ะ”
“ไม่ทุกคนหรอกครับ นอกจากผู้หญิงพรหมจารีจะเป็นมาก คุณยังบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหมครับ”
“เออ..คะ..ค่ะ..ดิ..ดิฉัน..”
ดิฉันอึกอักเมื่อเจอคำถามแบบนี้
“เพราะเยื่อพรหมจารียังไม่ขาดนะครับ ตอนแรกอาจจะเจ็บเมื่อผมสอดเครื่องมือเข้าไป เพื่อความมั่นใจว่าคุณจะไม่มีโอกาสเป็นมะเร็ง ทนอีกนิดนะครับ”
“อย่างนี้..ถ้าดิฉัน..ดิฉันแต่ง..”
ดิฉันอึกอักกล่าว นายแพทย์ทรงวุฒิกล่าวตอบยิ้มๆ
“อ้อ..ถ้าถึงตอนนั้น คุณจะไม่รู้สึกเจ็บเท่าไรหรอกครับ”
“อ้าว..ทำไมล่ะคะ?”
ดิฉันสงสัยเลยหลุดคำถามออกไป ก่อนที่จะหน้าแดงด้วยความอาย “เออ..คือว่า..คือว่า..จะมีความรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาทดแทนมากกว่าความเจ็บอัน เนื่องมาจากการฉีกขาดของเยื่อพรหมจารีนะครับ”
คำถามนี้เล่นเอาคุณหมอตอบอึกอักเช่นกัน ดิฉันเองก็ยังนึกไม่ออกว่า เป็นความรู้สึกอะไร หลังจากนั้นดิฉันรู้สึกว่า เขาดันขาทั้งสองให้แยกถ่างออกขึ้นอีก มีวัตถุอะไรก็ไม่รู้มาป้วนเปี้ยนที่เนินเนื้ออีกครั้ง มันค่อยๆสอดเข้าไป แต่พอสอดเข้าไปได้หน่อยเดียวก็ติด ไม่สามารถดันเข้าไปได้อีก ดิฉันรู้สึกเจ็บ
“คุณ..คุณหมอคะ เจ็บ..เจ็บคะ..”
“ผม..ผมขอโทษครับ..ผมจะทำให้นุ่มนวลกว่านี้..”
เขาเอาอะไรมาคลึงที่ตุ่มนั้นอีกแล้ว ความรู้สึกเจ็บค่อยๆจางหายไป คุณหมอเริ่มขยับเครื่องมือดังกล่าวเข้าๆออกๆอย่างช้าๆ ดิฉันยอมรับว่า การตรวจภายในของนายแพทย์หนุ่มคนนี้ ทำเอาดิฉันบังเกิดความเสียวจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มันเป็นความสุขที่ดิฉันต้องการมานาน แต่ดิฉันไม่เคยบอกใคร แม้แต่ทำเองก็ไม่กล้า มันเป็นความต้องการลึกๆที่อยากได้มานานตั้งแต่แตกเนื้อสาว “อูวว์..คุณ..คุณหมอคะ..ฉันมีความ..ความสุขที่สุดในโลกเลยคะ..ขะ..ขยับ…เครื่องมือของคุณหมอเร็วๆหน่อยคะ..” ดิฉันร้องครางออกมาอย่างลืมอายลืมตัว ความต้องการมันมีมากกว่าความอายเสียแล้ว ดิฉันรู้สึกเหมือนเครื่องมือถูกดึงออกไป “คุณ..คุณหมอ..อย่าเอา..อย่าเอาออก..ได้โปรด..”
“ใจเย็นครับ..เดี๋ยวผมจะเอาเข้าไปใหม่”
หมอหนุ่มพูดเสียงสั่นเช่นกัน ชั่วอึดใจเดียว ดิฉันรู้สึกว่าเขาสอดใส่อะไรบางอย่างเข้าไป มันไม่เหมือนเก่า ดิฉันผงกศีรษะขึ้นมองดูเห็นหมอหนุ่มยืนอยู่กลางหว่างขา ท่อนล่างของเขาเปล่าเปลือย
“คุณ..คุณ..”
ดิฉันรู้แล้วว่า เขากำลังทำอะไรดิฉันอยู่
” เดี๋ยวคุณจะเข้าใจที่ผมบอกเมื่อครู่ ว่าทำไมแบบนี้คุณจึงไม่รู้สึกเจ็บ..”
เขาพูดเสร็จก็กดสะโพกเข้ามาจนสุดร่าง ดิฉันรู้สึกเสียวปร๊าบจนต้องร้องครางออกมา
“โอย..เบา..เบาๆ..ก่อนคะ เบาๆ..”
เขาขยับร่างเข้าออกเบาๆตามคำร้องของดิฉัน ค่อยๆเร่งเร็วขึ้น เขารวบขาของดิฉันให้หนีบเข้ามาจนชิดติดกันแน่น แล้วขยับสะโพกซอยถี่ขึ้นๆๆ ดิฉันขยับสะโพกร่อนโต้ตอบอย่างลืมตัว คุณหมอหนุ่มเร่งกระแทกแรงขึ้นๆเร็วขึ้นๆจน.. “โอว์ว์…คุณหมอขาา….”
หลังจากนั้นดิฉันต้องมาให้หมอหนุ่มคนนี้ตรวจดูภายในบ่อยๆ จนเราแต่งงานกันในที่สุด